การฟอกสีฟัน (Teeth Whitening)

การฟอกสีฟัน หรือ Teeth Whitening เป็นวิธีที่สร้างรอยยิ้มที่สดใส ด้วยการขัดสีฟันให้ขาวมากขึ้น และสะอาดขึ้น ซึ่งมีทางเลือกในการฟอกสีฟันอยู่ 2 อย่างคือ การฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ที่คลินิค และการซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไปฟอกเองที่บ้าน

การฟอกสีฟัน ทั้งการฟอกที่คลินิคฟัน และการฟอกเองที่บ้านนั้น ก็ใช้หลักการเดียวกันคือ ฟอกด้วยเปอร์ออกไซด์ การฟอกที่บ้าน อาจจะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นไม่มากนัก คือประมาณ 3-20 เปอร์เซนต์ แต่การฟอกในคลินิค จะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงกว่า คือประมาณ 15-43 เปอร์เซนต์ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ยิ่งใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง ก็ยิ่งได้ฟันที่ขาวมากขึ้น แต่การใช้น้ำยาความเข้มข้นสูง ก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่เช่นนั้น อาจจะมีผลกระทบให้เกิดอาการเสียวฟันได้

ข้อดี-ข้อเสียของการฟอกสีฟันที่คลินิค และฟอกเองที่บ้าน

ทั้งสองวิธี ล้วนมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ที่แตกต่างกัน แต่ก่อนที่จะทดลองฟอกสีฟันเองที่บ้าน ด้วยชุดอุปกรณ์ที่มีขายกันทั่ว ๆ ไปนั้น ก็ควรจะปรึกษา หรือขอคำแนะนำจากทันตแพทย์ก่อน เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด และต้องรับทราบข้อมูลอย่างหนึ่งว่า ฟันที่ครอบด้วยพอเซลีน หรือคอมโพสสิตนั้น ไม่สามารถฟอกให้ขาวขึ้นมาได้

การฟอกสีฟันที่คลินิค

การฟอกสีฟัน โดยทันตแพทย์นั้น สามารถให้ผลที่ดีกว่า และมีความรวดเร็วกว่า การทำเองที่บ้านมาก เพราะน้ำยาที่ใช้ มีความเข้มข้นสูงกว่า อีกทั้งยังมีการใช้ความร้อน แสง หรือเลเซอร์เข้าช่วย ทำให้กระบวนการสำเร็จอย่างรวดเร็ว และให้ผลที่น่าพึงพอใจ

เมื่อเสร็จกระบวนการ ก็จะเห็นผลที่ชัดเจน โดยทั่ว ๆ ไป ฟันจะขาวขึ้นตั้งแต่ 3 ถึง 8 เฉด ใช้เวลาในการฟอก เพียงแค่ 30-60 นาที และทำเสร็จ ในการมาพบทันตแพทย์ที่คลินิคเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ราคาของการฟอกสีฟันที่คลินิคนั้น ค่อนข้างจะสูง โดยระดับราคาจะอยู่ในหลักหมื่นขึ้นไป

การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน

การฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้านนั้น มีทางเลือกอยู่หลายทาง ดังนี้

  • การใช้แผ่น หรือเจล ฟอกสีฟัน วิธีนี้ จะใช้ใช้แปรงและแผ่น ใส่เจล ซึ่งมีส่วนผสมของเปอร์ออกไซต์ ใช้กับฟันโดยตรง แต่จะต้องใช้เวลา ทำต่อเนื่องวันละครั้งหรือสองครั้ง เป็นเวลา10 -14 วัน กว่าจะเห็นผล ก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน
  • ใช้ถาดฟอกสีฟัน มีลักษณะคล้าย ๆ กับ Mouth guard เป็นถาด สำหรับใส่เจล หรือน้ำยาเปอร์ออกไซด์ ลงไป แล้วในถาดไปสวมที่ฟัน ซึ่งอาจจะต้องใส่วันละหลายชั่วโมง และใช้ต่อเนื่องนานถึง 4 สัปดาห์ ถาดฟอกสีฟันนี้ สามารถหาซื้อมาใช้เองได้ แต่ขนาดจะไม่พอดีกับฟัน หรืออาจจะใช้ทันตแพทย์ ทำถาดที่พอดีกับฟันให้ก็ได้
  • การใช้ยาสีฟันฟอกสีฟัน ยาสีฟันประเภทนี้ จะมีส่วนผสมทางเคมีที่ช่วยขจัดคราบสกปรกที่ฟัน แต่มักจะไม่ช่วยในเรื่องของการฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นได้มากนัก อาจจะขาวขึ้นได้เพียงแค่เฉดเดียวเท่านั้น

เมื่อฟอกสีฟันไปแล้ว ฟันจะขาวได้นานแค่ไหน

ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน หรือฟอกที่คลินิคก็ตาม ความขาวที่ยาวนานนนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ฟอก หากดูแลรักษาอย่างดี ทั้งการแปรงฟัน การขัดฟัน การบ้วนปาก การหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรม รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารเทนนิน ก็จะทำให้ฟันนั้นขาวได้ยาวนานขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการฟอกสีฟัน

  • ชา กาแฟ
  • ไวน์ขาว ไวน์แดง
  • เครื่องดื่มสำหรับนักกีฬา
  • เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโซดา และสี
  • อาหารประเภทผลเบอรี่
  • ซอสปรุงรส จำพวกซีอิ้วขาว ซอสมะเขือเทศ เครื่องเทศพวกผงกะหรี่

ทำไมเราต้องปรึกษาทันตแพทย์ก่อนการฟอกสีฟัน

  • เนื่องจากการฟอกสีฟัน อาจจะทำให้บางคนมีอาการเสียวฟัน หรือมีความรู้สึกไม่สบาย ระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอาการเสียวฟันอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น การฟอกเอง ด้วยชุดอุปกรณ์ที่ซื้อมาเอง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้แก่เหงือกและฟันอย่างถาวรได้
  • การฟอกสีฟัน เหมาะสำหรับคนที่มีฟันเหลือง แต่จะไม่ค่อยได้ผลกับคนที่มีฟันสีเข้มจนออกสีน้ำตาล สีเทา หรือสีออกม่วง
  • เพื่อให้การฟอกสีฟันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนลงมือทำ

ปรึกษา ฟอกสีฟัน พัทยา | ปรึกษา ฟอกสีฟัน กทม.

บริการด้านทันตกรรม