การฟอกสีฟันที่คลินิก มีกี่แบบ มีกี่วิธีอะไรบ้าง

การฟอกสีฟันที่คลินิก มีกี่แบบ มีกี่วิธีอะไรบ้าง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาฟันคล้ำ ฟันเหลือง ฟันดำ ขาดความมั่นใจในการส่งรอยยิ้ม เรามีข่าวดีมาบอกว่าปัญหาของคุณจะหมดไป เพราะปัจจุบันมีทันตกรรมเพื่อความสวยงามที่เรียกว่า การฟอกสีฟัน หรือ ฟอกฟันขาว โดยการใข้เจลที่มีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มาทำที่หน้าฟันเข้าไปทำให้เม็ดสีในเนื้อฟันแตกตัวเพื่อผลลัพธ์ฟันที่ขาวสว่างขึ้น และกระบวนการฟอกสีฟันคืออะไร มีด้วยกันกี่แบบ กี่วิธี อะไรบ้างในบทความนี้กัน

การฟอกสีฟันคืออะไร

หรือการฟอกฟันขาว เป็นทันตกรรมเพื่อความสวยงามที่รักษาช่วยให้ฟันที่มีสีเหลือง สีคล้ำ สีดำ ที่เกิดจากคราบอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทาน รวมถึงการสูบบุหรี่ทำให้คราบติดสะสมบนผิวฟัน ทำให้ขาวขึ้นได้เหมือนฟันธรรมชาติ ด้วยวิธีการใช้สารสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มาทำที่หน้าฟันเข้าไปทำให้เม็ดสีในเนื้อฟันแตกตัว ซึ่งการฟอกสีฟันสามารถทำโดยทันตแพทย์หรือทำเองได้ที่บ้าน

การฟอกสีฟันมีกี่วิธี

1.การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น หรือ Cool Light

เป็นการใช้แสง LED ฉายแสงลงบนฟันที่ทาเจลฟอกฟันไว้เรียบร้อยแล้ว โดยแสงจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของสารในเจลเพื่อให้เม็ดสีหนาทึบและแตกตัวผลลัพธ์ทำให้ฟันดูขาวกระจ่างขึ้น การใช้แสงเย็นไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีอันตรายต่อเหงือก เนื่องจากทันตแพทย์จะทาเจลแข็งบริเวณเหงือกก่อนฉายแสงเพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกได้รับผลกระทบจากสารฟอกสีฟัน หลังฉายแสงเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก การดำเนินงานใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นกับสีฟันระดับแรกก่อนเข้าฟอกสีฟัน
ข้อจำกัดคือ อาจมีอาการเสียวฟันบ้าง เนื่องจากน้ำยาฟอกสีฟันอาจมีความเข้มข้นสูง และ ประสาทฟันจะค่อย ๆ ปรับสภาพจนอาการหายไปได้เอง ส่วนสีฟันจะขาวขึ้นอยู่เพียง 6-12 เดือน และมีค่าใช้จ่ายสูง

2.ฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ Laser Teeth Whitening

เป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม ทันตแพทย์จะใช้แสงเลเซอร์ไดโอดมากระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันแตกตัว โดยแสงเลเซอร์จะช่วยให้สารฟอกสีฟันอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ แตกตัวและแทรกซึมเข้าไปในผิวฟันได้ดีขึ้น เพื่อขจัดคราบและเม็ดสีบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยเพราะเลเซอร์ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถใช้ร่วมกับเจลฟอกสีฟันได้ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 1-3 ปีขึ้นกับการดูแลฟันของแต่ละบุคคล
ข้อจำกัด อาจเกิดอาการเสียวฟันได้แต่มักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการฟอกสีฟัน และจะหายได้เองใน 1-3 วัน และอาจเกิดอาการระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากซึ่งเกิดจากสารฟอกสีฟันสัมผัสกับเหงือกในระหว่างกระบวนการฟอกสีฟัน

3.ฟอกสีฟันด้วยระบบซูม (ZOOM)

ด้วยเทคโนโลยีฟอกสีฟันที่นิยมด้วยแสง Zoom โดยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่ใช้กับระบบ Zoom อาจสูงกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น สามารถปรับความเข้มข้นและความร้อนของแสงให้เหมาะกับแต่ละคนได้ มีอาการเสียวฟันน้อยกว่า
มีข้อจำกัดคือ การฟอกสีฟันด้วยอุปกรณ์ Zoom อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ๆ เพราะจะมีค่าบริการ อุปกรณ์จากทันตแพทย์ และน้ำยาอุปกรณ์ Zoom และต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง ต้องใช้บริการในคลินิกที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

การฟอกสีฟันมีกี่แบบ

1.การฟอกสีฟันที่คลินิก

เป็นการฟอกสีฟันที่ทำที่คลินิกโดยทันตแพทย์จะเป็นผู้รักษาและดูแลตลอดการทำ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจถึงความปลอดภัย วิธีนี้เห็นผลเร็ว โดยทันตแพทย์จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ในการทำใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ใช้เทคโนโลยีช่วย มีความปลอดภัยสูงเพราะการทำฟอกสีฟันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ข้อจำกัด อาจมีอาการเสียวฟันบ้าง เนื่องจากน้ำยามีความเข้มข้นสูง รวมถึงมีการกระตุ้นด้วยการฉายแสง มีราคาสูงถึง 3,000-20,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และความเข้มข้นของสารฟอกสีฟันด้วย

2.การฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตนเอง

เป็นการฟอกสีฟันเองที่ทำด้วยตนเองที่บ้าน คือการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวอย่างน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน หรือ อีกแบบคือการฟอกสีฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์ที่ใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นมากกว่าแบบแรก แต่ทั้งสองก็มีข้อดีคือ มีราคาถูก ประมาณ 2,000-4,500 บาท ผลลัพธ์อาจคงอยู่นานกว่า เนื่องจากสามารถทำได้ทุกเวลาที่บ้านที่สะดวก ซึ่งเหมาะกับคนงบน้อยและไม่มีเวลามาทำที่คลินิก
ข้อจำกัด ใช้เวลานานกว่า เนื่องจากความเข้มข้นในระดับที่ทำเองได้จะค่อนข้างน้อยกว่า อาจมีผลกระทบสำหรับบางคน หากซื้ออุปกรณ์มาทำเองที่บ้านโดยไม่ได้ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันให้ดีก่อนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อได้

ฟอกสีฟันทีไหนดี

การฟอกสีฟันมีด้วยกันสองแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อจำกัดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคลเลย เพราะผลลัพธ์ทีได้ก็คือได้ความขาวเนียนใสได้เช่นกัน เพียงแต่ระยะเวลาหรือผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันอยู่บ้างซึ่งก็เป็นข้อจำกัดของการฟอกสีฟันแต่ละแบบ โดยเราแนะนำให้เลือกสถาบันทันตกรรมที่เชื่อถือได้ โรงพยาบาล คลินิกชั้นนำ ได้มาตรฐาน มีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญการโดยเฉพาะ มีเครื่องมือ เทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ที่สำคัญรักษาได้อย่างปลอดภัย สถานที่สะอาด เครื่องมือพร้อม บุคลากร เจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี

และหากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน สามารถติดต่อเข้ามาหาเราได้ที่ Smile Dental Group ศูนย์ทันตกรรมที่มีชื่อเสียงที่ให้บริการครบวงจร ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจำนวนมาก มาเป็นเวลานานกว่า 12 ปี ทีมงานเรามีประสบการณ์ในการทำงานมานานหลายปี อีกทั้งยังได้รับการฝึกอบรมให้มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ทีมงานมีความเป็นกันเอง และพร้อมให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ทุกคน

เรามีบริการมากมาย เช่น ทันตกรรมทั่วไป ทันตกรรมจัดฟัน ทันกรรมประดิษฐ์ โรคเหงือก ศัลยกรรมช่องปาก การตกแต่งเหงือก การครอบฟัน สะพานฟัน การทำรากฟันเทียม การทำวีเนียร์ ทั้งคอมโพสิตวีเนียร์ เซรามิกวีเนียร์ การอุดฟัน การฟอกสีฟัน การเคลือบฟันเทียม การจัดฟัน เป็นต้น

คลินิกทันตกรรมในเครือสไมล์เด็นทอลกรุ๊ปของเรามีด้วยกัน 3 สาขา ได้แก่
– 👉คลินิกทันตกรรมพัทยากลาง (ตั้งอยู่หน้าปากซอยของพัทยากลาง ซอย 7 อยู่ติดถนนใหญ่)
– 👉คลินิกทันตกรรมพัทยาสไมล์ (ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับธนาคารกสิกร ตึกคอม พัทยาใต้)
– 👉คลินิกทันตกรรมฮอลลีวูดสไมล์ (ตั้งอยู่ตรงข้ามกับตึกคอม พัทยาใต้)
สามารถเข้ามาปรึกษากับเราได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นด้านทันตกรรมจัดฟัน หรือทันตกรรมสาขาอื่นๆ เรามีทีมทันต กรรมเฉพาะทางคอยให้คำปรึกษา และให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

Smile Dental Group คลินิกทันตกรรม 3 สาขาของเรา ให้ความสำคัญในเรื่องของดูแลในเรื่องความสะอาด การฆ่าเชื้ออุปกรณ์ และเครื่องมือต่าง ๆ ทางทันตกรรมของ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดเชื้อ 100% นอกจากนี้เรามีทีมทันตแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา และมีบุคลากรผู้ช่วยทางทันตกรรมที่มีประสบการณ์สูงชำนาญทางด้านทันต กรรมโดยเฉพาะ

และนอกจากนี้ เรายังมีทีมบริหารมีผู้จัดการไว้คอยดูแลให้บริการได้อย่างรวดเร็วทันใจ ถ้าหากมีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ เราสามารถดูแลท่านได้อย่างเต็มที่ และรวดเร็ว จึงมั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการบริการที่ดี และได้มาตรฐานอย่างแน่นอน

และที่สำคัญเราได้เห็นถึงความสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว เราจึงได้จัดให้มีการเผยแพร่ความรู้ทางทันตกรรมต่างๆ รวมทั้งวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น ในเว็บไซต์ ในไลน์ ในเฟสบุ๊ค และในไอจี เพื่อให้คนไข้ได้เข้าไปศึกษาทำความเข้าใจ และนำไปใช้ในประกอบเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ