ผู้ป่วยมะเร็งควรดูแลสุขภาพช่องปากยังไง

การดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งมีความเสี่ยงในการพบปัญหาทางช่องปากที่มากขึ้น เป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ทำให้การเปลี่ยนแปลงในจุลินทรีย์ช่องปาก ซึ่งผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งนั่นเอง

การดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง มีข้อแนะนำ ดังนี้

1. การทำความสะอาดช่องปากประจำ
• แปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน
• ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนแปรงฟันก่อนนอน
• แปรงฟันและทำความสะอาดลิ้นทุกครั้งหลังแปรงฟัน
• ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม
• ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อลดโอกาสการเกิดฟันผุ

2. การใช้น้ำยาบ้วนปาก แนะนำดังนี้
• ในผู้ป่วยมะเร็ง หากมีอาการปากแห้ง แนะนำให้บ้วนปากบ่อยๆ หรือจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อรักษาสุขภาพของช่องปากให้เป็นปกติ
• ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากทั่วไป เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนได้
• ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปากได้

น้ำยาบ้วนปากที่แนะนำในผู้ป่วยมะเร็ง มี 2 ชนิดด้วยกัน
• คลอเฮ็กซิดีน (Chlorhexidine)
เป็นน้ำยาบ้วนปากที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีผลข้างเคียงคือ อาจจะทำให้การรับรสเปลี่ยนไป ไม่แนะนำให้ใช้บ่อยเป็นประจำทุกวัน

• เบกกิ้งโซดาหรือ โซเดียมไบคาร์โบเนต
ให้ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ต่อน้ำอุ่น 1 แก้ว ซึ่งการใช้เบกกิ้งโซดา จะเป็นการรักษาสมดุลของกรด-ด่าง (pH) ในช่องปาก และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและเป็นแผลในช่องปากได้

3. การรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก
ในกรณีที่มีปากแห้ง แนะนำให้ดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก ช่วยคงความสมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องปาก และป้องกันอาการปากแห้ง

4. ควรบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
• ควรบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
• ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพช่องปาก

5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
• บุหรี่ และแอลกอฮอล์ จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก
• เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาของฟัน และเนื้อเยื่อในช่องปากได้

6. การแก้ไขปัญหาปากแห้ง
ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อลดอาการปากแห้ง แนะนำดังนี้
• ใช้สารทดแทนน้ำลาย (น้ำลายเทียม)
• หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์เพื่อบรรเทาอาการปากแห้ง

7. ใช้ลิปมัน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของริมฝีปาก
• ป้องกันปากแห้งหรือปากแตก
• แนะนำให้ใช้เป็นบ่อยๆ และสม่ำเสมอ

8. รับประทานอาหารที่นุ่ม และมีความชื้น
• เลือกอาหารที่ง่ายต่อการเคี้ยวและกลืน
• เลือกอาหารที่นุ่ม มีความชื้น และปรุงสุกดี
• เพื่อหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก
• ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัดและเผ็ด

9. ตรวจสุขภาพช่องปากประจำ
กรณีที่มีอาการผิดปกติใดๆ ถ้าสามารถตรวจเจอได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ซึ่งจะทำให้การรักษาเป็นไปได้ง่าย และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ลดโอกาสการเกิดโรคเหงือก และลดโอกาสการเกิดแผลในช่องปากได้อีกด้วย

10. หากพบปัญหา ควรไปพบกับทันตแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ เช่น
• มีเลือดออก
• มีอาการบวม
• มีความเจ็บปวด
• มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติในช่องปาก